ผู้สื่อข่าวรายงานว่าจากกรณีที่เมื่อวันที่ 17 พ.ค.2560 ได้มีคนไปพบเห็น หญิงสาว ยืนตัวสั่นท่ามกลางสายฝน บนใบหน้าเป็นแผลเป็น  ได้ถ่ายรูปมาโพสต์ในโลกโซเชียล จากนั้นมีคนกล่าวถึง แสดงความคิดเห็นจำนวนมาก ว่าเธอเป็นใครถึงมายืนตากฝนตัวสั่น และมีใบอัปลักษณ์ตาบอด ต่อมาในวันที่ 19 พ.ค. 2560 ได้มีการติดต่อไปยัง นางกรณิศ โฆษพงค์ ผอ.การโรงเรียนการศึกษาคนตาบอดแม่สาย เพื่อให้ช่วยตรวจสอบและทำการช่วยเหลือหญิงดังกล่าว ต่อมาทราบว่าหญิงคนดังกล่าวบ้านอยู่ ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย จึงได้ประสานไปยัง นายศักดิ์ เสถียรยืนยง ผู้ใหญ่บ้าน จู้จี้ หมู่ที่ 13 ตำบลวาวี อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงรายนางกรณิศ โฆษพงค์ ผอ.การศึกษาโรงเรียนคนตาบอดแม่สาย และเจ้าหน้าที่ พร้อมด้วยผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง หลังจากมีคนพูดถึงในโลกโซเชียลจำนวนมาก อยากจะให้หน่วยงานเข้าไปช่วยเหลือ  เวลา 09.00 น.ในวันเวลาเดียวกัน เข้าพบนายศักดิ์ เสถียรยืนยง ผู้ใหญ่บ้านจู้จี้  เล่าให้ฟังว่าที่แท้เธอชื่อนางอาหมี่ แซ่มู่ อายุ 36 ปีเป็นชาวเขาเผ่าลาหู่ อยู่บ้านเลขที่ 45 หมู่ที่ 19 ตำบลวาวี อยู่บ้านชั้นเดียวหลังเล็กๆ กับ นางนาภา แซ่มู่ อายุ 53 ปี ซึ่งเป็นแม่เลี้ย เพียง 2 คนในบ้าน ก่อนหน้านี้เธอเป็นคนที่สวย ที่สุดในหมู่บ้าน และได้ออกจากหมู่ไปทำงานยังมาเลเซีย ก่อนจะกลับบ้านมาพร้อมกับสามี พอมาอยู่บ้านได้ระยะหนึ่ง เธอก็ได้กลับไปทำงานที่ร้านอาหารติดชายแดนมาเลเซียอีกครั้ง และขาดการติดต่อกับทางบ้านไม่มีใครทราบข่าวเธออีกเลย

ต่อมาในวันที่ 4 มิ.ย.2555 มีข่าวทางสื่อมวลชน ว่าหนุ่มหึงโหดใช้น้ำกรดสาดหน้าอดีตแฟนสาวอาการสาหัส เมื่อคนในหมู่บ้านเห็นข่าวก็ทราบว่าเป็นนางอาหมี่ แซ่มู่ เธอได้ไปทำงานร้านอาหารด่านนอก อำเภอสะเดา จังหวัดสงขลา สาเหตุเกิดจากเรื่องแฟนเก่าและแฟนใหม่หึงห่วงกัน ทำให้แฟนเก่าเอาน้ำกรดมาสาดใส่หน้ากับแฟนใหม่ นางอาหมี่โดนน้ำกรดสาดใส่เต็มใบหน้าทำให้เสียโฉมรักษาตัวอยู่นาน และเพื่อนร่วมงานสงสารได้นำเธอมาส่งยังบ้านจู้จี้ ดอยวาวี ซึ่งเป็นบ้านเกิด  ปัจจุบันเธออาศัยอยู่กับแม่เลี้ยง ซึ่งก็มีความพิการอีก ที่ได้รับบาดเจ็บที่เข่าด้านซ้าย จากอุบัติเหตุรถชนทำให้ไม่สามารถเดินไปมาได้ ประกอบอาชีพไม่ได้ จึงได้แต่รอคอยชาวบ้านที่อยู่ใกล้เคียงนำอาหารมาให้ นางอาหมี่ทุกวันไม่ยอมที่จะเข้าไปนอนในบ้านตนเอง จะนอนอยู่หน้าบ้านข้างกองฟืน บนผ้าเก่าๆ จะไม่ยอมไปไหน   แต่พอตกกลางคืนนางอาหมี่ จะเดินไปมาตามในหมู่บ้าน ทำให้สุนัขเห่าตลอดทั้งคืนจนชาวบ้านเดือดร้าน เนื่องหมู่บ้านอยู่กลางหุบเขาเสียงก้องและบางวันนางอาหมี่ จะเดินไปเรื่อยๆ จนบางที่ เดินจากหมู่บ้านจู้จี้ ไปถึง บ้านวาวีเป็นระยะทาง 5 กม. และระหว่างทางจะเป็นสันเขาสูง ทางลูกรังชาวบ้านกลัวจะเกิดอันตราย เนื่องจากตาทั้งสองข้างเธอไม่สามารถมองเห็นหลังจากโดนแฟนเก่าสาดน้ำกรดใส่เมื่อ 5 ปีก่อน  ระหว่างที่นางอาหมี่ได้พูดคุยกับนางกรณิศ  โฆษพงค์ ผอ.การศึกษาโรงเรียนคนตาบอดแม่สาย พร้อมเจ้าหน้าที่ นางอาหมี่เธอจะมีน้ำตาไหลระหว่างเจ้าหน้าที่พูดคุย แต่เธอไม่ยอมที่จะพูดคุยกับทางเจ้าหน้าที่ ทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำและสอนวิธี การใช้ชีวิตประจำวันเพื่อไม่ให้เป็นภาระกับผู้อื่น คาดว่านางอาหมี่ได้รับการกระทบกระทั้งทางด้านจิตใจรับไม่ได้กับใบหน้าที่มีแผลรอยน้ำกรด และยังมีอาการที่หวาดกลัวสิ่งต่างๆในรอบข้าง  หลังจากนี้ทางเจ้าหน้าที่จะติดต่อทาง โรงเรียนสาขาคนตาบอดที่เกี่ยวข้อง  เพื่อจะนำไปฟื้นฟูด้านจิตใจและฝึกวิชาชีพให้นางอาหมี่ เพื่อให้อยู่ร่วมกับสังคมต่อไป

หมายเหตุ ผู้ไดพบเห็นคนตาบอดที่ไม่ได้รับการดูแล ติดต่อโรงเรียนคนตาบอดในประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ 052-029862 หรือ Facebook โรงเรียนคนตาบอดแม่สาย